ดึง19 ล้านทัวริสต์เข้าไทยปี55 ททท.มั่นใจ

1 07 2011

หัวข้อข่าว          :  ดึง19 ล้านทัวริสต์เข้าไทยปี55 ททท.มั่นใจ

 

ประเด็นข่าว         :  การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยวางแผนที่จะดึงนักท่องเที่ยว 19 ล้านคนมาท่องเที่ยวเมืองไทยในปี 2555 โดยมุ่งเน้นที่จะโปรโมตการท่องเที่ยวระดับ Hi-end เนื่องจากปี 2555 จะมุ่งเน้นการสร้างรายได้  โดยนำเสนอความหรูหราและการบริการเป็นเลิศ โปรโมตภายใต้ชื่อ Wellness & Beauty เช่น การพักโรงแรมหรู สปา  กิจกรรมดูแลสุขภาพบำบัด และช็อปปิ้ง  เป็นต้น  ทั้งนี้กลุ่มเป้าหมายจะมุ่งไปที่นักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อสูง นิยมมาท่องเที่ยวแบบเป็นครอบครัวและ ชอบการพักผ่อนแบบ Long Stay คาดว่าภายในปี 2555 จะมีรายได้จากการท่องเที่ยวภายในประเทศถึง 7.6 แสนล้านบาท

Analysis             :  ททท. มุ่งเน้นที่จะโปรโมตประเทศไทยในลักษณะที่จับต้องได้และเข้ากับไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่มากขึ้น เช่น การพักโรงแรมหรู สปา กิจกรรมดูแลสุขภาพบำบัด ช็อปปิ้ง  เป็นต้น  นอกจากนี้ยังมุ่งไปที่กลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพและมี Spending Power สูงเช่นกลุ่มนักเล่นกอล์ฟ หรือกลุ่มที่จะมาแต่งงานหรือฮันนีมูนในประเทศไทย ซึ่งล่าสุด ททท. ก็ทำหนังสั้นในชื่อ Hearing The Sunshine เพื่อโปรโมตการท่องเที่ยวในจังหวัดต่างๆโดยจะเผยแพร่ไปบน You tube และ Web site ต่างๆที่เกี่ยวข้อง  เนื้อหาจะเป็นการแนะนำประเทศไทยให้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ด้วยการนำชาวต่างชาติ มารับบทบาทเป็นตัวเอก เพื่อสื่อสารเรื่องราวและความรู้สึกที่ได้มาเที่ยวเมืองไทย  คลิปวีดีโอชิ้นนี้ สื่อถึงความประทับใจที่มีต่อเมืองไทย ทั้ง สถานที่ท่องเที่ยว ที่บางคนอาจไม่เคยรู้จักมาก่อน และ ความมีน้ำใจของคนไทยที่มีแบ่งปันให้กันเสมอ ซึ่งทำให้ผู้ที่ได้ชมคลิปนี้ รู้สึกได้ว่า ประเทศไทย ก็เป็นเมืองที่น่าอยู่ ไม่แพ้ที่ใดในโลก  ซึ่งการนี้ปรากฏว่ามี กระแสการตอบรับอย่างดีจากสังคมออนไลน์ จากจำนวน visitor 112,935 คน รวมทั้งการขึ้นอันดับเป็นกระทู้แนะนำใน Pantip.com ซึ่งมีผู้เข้าไปชม Trailer ซึ่งถูก Upload ขึ้น You tube ถึงกว่า 140,000 ครั้ง ทั้งนี้ ททท. ยังเตรียมขยายผลการประชาสัมพันธ์ภาพยนตร์สั้นทั้ง 7 ตอน ผ่านสื่อฯในต่างประเทศ อาทิ Discovery Channel ในช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อสร้างการรับรู้ในวงกว้างให้มากยิ่งขึ้น

กลยุทธ์ที่ใช้        : กลยุทธ์เชิงรุก โดยมุ่งเน้นไปที่กลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่มีกำลังซื้อสูง และ กลุ่มที่ต้องการมาพักผ่อนแบบครอบครัว หรือ Long stay เพื่อให้มีการใช้จ่ายเงินในประเทศมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้การมุ่งให้ประเทศไทยเป็น Destination สำหรับการตีกอล์ฟ การประชุมสัมมนาทางธุรกิจ หรือแม้แต่การฮันนีมูน ก็ถือเป็นการเสนอทางเลือกใหม่ให้แก่นักท่องเที่ยวที่สนใจและได้เผยแพร่แหล่งท่องเที่ยวที่ยังไม่เป็นที่รู้จักให้ชาวต่างชาติรู้จักมากขึ้น พร้อมๆไปกับการนำเสนออัธยาศัยไมตรีอันดีของคนไทย อันจะนำไปสู่การบอกต่อ หรือ revisit ในโอกาสต่อๆไป

แหล่งที่มา             : ฐานเศรษฐกิจ (ออนไลน์)  http://www.thannews.th.com/

ข่าวที่1  ดึง19 ล้านทัวริสต์เข้าไทยปี55 ททท.มั่นใจ

โดย       จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจฉบับที่ 2,648 วันอังคารที่ 28 มิถุนายน 2011 เวลา 12:39 น. 

 

ททท. เปิดกลยุทธ์แผนตลาดท่องเที่ยวปี 55 วาดฝันดึงทัวริสต์ 19 ล้านคนเที่ยวไทย  ดันรายได้แตะ 7.6 แสนล้านบาท โดยใน 3 ตลาดหลักที่มีนักท่องเที่ยวเกินล้านคน เปิดเกมรุกเจาะกลุ่มไฮเอนด์ โดยจะใช้กระแสดาราไทยฟีเวอร์กระตุ้นตลาดจีน ญี่ปุ่นเน้นรักษากลุ่มรีพีตเตอร์ ยุโรป-มะกันเน้นทำตลาดผ่านสื่อใหม่ แหล่งข่าวระดับสูงจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยหรือททท.เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่าจากการประชุมแผนการตลาดท่องเที่ยวปี 2555 ของททท. ระหว่างวันที่ 23-27 มิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งได้มีการหารือกับผู้อำนวยการททท.สำนักงานในประเทศและต่างประเทศ ททท.ได้ประเมินแนวโน้มการท่องเที่ยวในปีหน้าว่า มีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นราว 9% โดยจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาเที่ยวไทยราว 19.5 ล้านคน สร้างรายได้กว่า 766,000 ล้านบาท เนื่องจากในปีนี้ททท.คาดการณ์ว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาเที่ยวไทยมากถึง 18.3 ล้านคน สร้างรายได้ราว 702,752 ล้านบาท

                เนื่องจากสถิตินักท่องเที่ยวในช่วง6 เดือนแรกของปีนี้ มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาเที่ยวไทยทะลุ 9 ล้านคนแล้ว และยังคงขยายตัวต่อเนื่องในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ทำให้ททท.คาดว่าปีนี้นักท่องเที่ยวจะมีจำนวนกว่า 18.3 ล้านคน และปีหน้าจึงเพิ่มเป็น 19.5 ล้านคน ส่วนแนวโน้มการเดินทางเที่ยวในประเทศของคนไทย ในปีหน้าททท.ไม่ได้ทำการประเมิน เนื่องจากการเก็บสถิติของนักท่องเที่ยวไทยของกระทรวงการท่องเที่ยวฯมีความล่าช้า ทำให้ททท.ไม่สามารถคาดการณ์แนวโน้มปีหน้าได้

 นายพงษ์อนันต์ สรรพานิช ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานปักกิ่ง เปิดเผยว่าในส่วนของแผนการกระตุ้นตลาดนักท่องเที่ยวจีนในปี 2555 จะมุ่งเน้นการทำตลาดใน 3 ตลาดหลัก ได้แก่ กอล์ฟ การแต่งงาน และการใช้กระแสดาราไทย เนื่องจากละครไทยโด่งดังในจีนมาก ซึ่งจะเน้นโปรโมตในระดับไฮเอนด์ เพราะกลุ่มนี้มีกำลังจ่ายสูง คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาเที่ยวไทยอยู่ที่ราว 1.2-1.3 ล้านคน สำหรับนายวิบูลย์ นิมิตรวานิช ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานกัวลาลัมเปอร์ กล่าวว่า ตลาดนักท่องเที่ยวมาเลเซียจะเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวพักผ่อนหรือเลเชอร์ รวมถึงกลุ่มนักท่องเที่ยวมาซ้ำหรือรีพีตเตอร์ และนักท่องเที่ยวที่เดินทางด้วยตนเองหรือเอฟไอทีราว 80% มีนักท่องเที่ยวผ่านบริษัททัวร์ราว 20% ดังนั้นแผนการตลาดปี 2555 จะมุ่งกระตุ้นตลาดเลเชอร์ และจะสร้างตลาดใหม่คือกลุ่มไฮเอนด์ เนื่องจากปี 2555 จะมุ่งเน้นการสร้างรายได้  โดยนำเสนอความหรูหราและการบริการเป็นเลิศ โปรโมตภายใต้ชื่อ Wellness&Beauty เช่น การพักโรงแรมหรู สปา  กิจกรรมดูแลสุขภาพบำบัด และช็อปปิ้ง  เป็นต้น 

 โดยจะมุ่งเน้นการโปรโมตในกรุงเทพฯ หัวหิน ภูเก็ต เชียงใหม่ สมุย และกระบี่ ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางที่มีบูติก รีสอร์ต รวมถึงโรงแรมหรูหราแบบมีระดับ และการมีเที่ยวบินตรง ทั้งการจัดแฟมทริปให้บริษัทนำเที่ยวเข้ามาดูโปรดักต์เพื่อนำเสนอความพร้อมของแหล่งท่องเที่ยวต่างๆรวมถึงการกระตุ้นกลุ่มเลเชอร์ก็ยังดำเนินการอยู่ โดยเน้น Emotional Famtrip ผลักดันให้เกิดเส้นทางและแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ มากขึ้น เช่น ภูเก็ต กระบี่ ตรัง เชียงใหม่ เชียงราย และกรุงเทพฯ ปากช่อง นครราชสีมา เป็นต้น

ด้าน นางสาวเบญจวรรณ สุเนตรวรกุล ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานโตเกียว กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมา แม้ญี่ปุ่นจะมีปัญหาสึนามิ แต่นักท่องเที่ยวญี่ปุ่นก็ยังเดินทางมาเที่ยวไทย อย่างในเดือนมกราคม-พฤษภาคม 2555 ตัวเลขนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นราว 15% ขณะที่คนไทยจะไม่ไปญี่ปุ่นในช่วงนี้ พร้อมกันนี้ ยังคาดว่านักท่องเที่ยวญี่ปุ่นที่มาไทยในปีนี้น่าจะเกิน 1 ล้านคน หากไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น ดังนั้น แผนการทำตลาดในปี 2555 นอกจากการรักษาตลาดนักท่องเที่ยวรีพีตเตอร์แล้ว ต้องรุกการทำตลาดใหม่ในกลุ่มผู้หญิง วัยรุ่น นักกอล์ฟ รวมถึงกลุ่มลองสเตย์ด้วย

 สำหรับแผนการทำตลาด จะเน้นการรุกสื่อออนไลน์ โดยสำนักงานโอซากาจะเป็นแม่งานหลักในการทำเว็บไซต์ นอกจากนี้ก็จะมีการทำโฆษณาผ่านไอแพด ไอโฟน รวมถึงบัส แอด โดยนำเสนอจุดขายของกรุงเทพฯ พัทยา ภูเก็ต และเชียงใหม่ และสินค้า 7 กลุ่มของ ททท. ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวญี่ปุ่นจะเป็นนักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อทริปราวกว่า 4 หมื่นบาท และมีวันพำนักเฉลี่ยราว 7 วัน

 นางศรีสุดา วนภิญโญศักดิ์ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานนิวยอร์ก กล่าวว่า แผนการตลาดในปี 2555 ของตลาดอเมริกา การสร้างการรับรู้ยังสำคัญ และคนอเมริกันยังมีศักยภาพที่จะกระตุ้นได้ โดยจะมีการทำ Call to Action เป็นการทำตลาดเพื่อให้เกิดการเดินทางร่วมกับบริษัทนำเที่ยวเพื่อสร้างสรรค์เส้นทางท่องเที่ยวใหม่ๆ ของไทย ซึ่งจะกระตุ้นทั้งในกลุ่มรีพีตเตอร์หรือนักท่องเที่ยวมาซ้ำ และกลุ่มเฟิสต์วิสิตเตอร์หรือนักท่องเที่ยวที่มาครั้งแรก รวมถึงจะมุ่งเน้นการทำตลาดผ่าน Broadcast Media เช่น เกมโชว์ เรียลลิตี  และสื่อออนไลน์ด้วย ทั้งจะมีการทำโครงการ Celebrity Marketing ให้มาถ่ายทำรายการต่างๆ ในไทย เพราะกลุ่มนี้ยังมีอิทธิพลกับคนดู นางวิยะดา ศรีรางกูล ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานโรม (ดูแลตลาดอิตาลี สเปน โปรตุเกส ตุรกี อิสราเอล และกรีซ) กล่าวว่า แผนการตลาดในปี 2555 จะมุ่งเน้นการเจาะกลุ่มตลาดคุณภาพ โดยจะรุกตลาดกอล์ฟ ฮันนีมูน และอินเทนซีฟ ซึ่งการทำตลาดกอล์ฟในอิตาลีและโปรตุเกส จะร่วมมือกับบริษัทนำเที่ยว นำผู้ชนะจากการแข่งขัน Amazing Thailand Golf Tournament มาแข่งในไทย รวมถึงการขายแพ็กเกจให้คนที่ต้องการมาร่วมตีด้วย

                พร้อมกันนี้ ยังส่งเสริมตลาดฮันนีมูน ร่วมกับบริษัททัวร์ โดยจะทำเกมออนไลน์ เพื่อให้ผู้ชนะได้มาเที่ยวเมืองไทย ซึ่งจะเป็นการขายทั้งวัฒนธรรมในภาคเหนือและชายทะเลในภาคใต้พ่วงกัน สำหรับตลาดสเปนจะรุกการทำตลาดผ่านอินเตอร์เน็ตมากขึ้น เนื่องจากเทรนด์ของนักท่องเที่ยวนิยมใช้อินเตอร์เน็ต รวมถึงจะมีการทำแคมเปญพิเศษผ่านเว็บไซต์ท่องเที่ยว travelportal.com โดยนักท่องเที่ยวของสเปนราว 70% จะเป็นกลุ่มฮันนีมูน ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีการใช้จ่ายสูง

 ขณะที่เทรนด์ของนักท่องเที่ยวอิสราเอลก็ได้เปลี่ยนจากแบ็กแพ็กเป็นกลุ่มแฟมิลี ก็จะมุ่งเจาะตลาดนี้มากขึ้น ประกอบกับตลาดตุรกี เป็นตลาดเล็ก ยังเพิ่มนักท่องเที่ยวได้มาก โดยจะเน้นการสร้างภาพลักษณ์ของไทยให้รู้ว่าไทยไม่ได้มีเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวตอนกลางคืนอย่างพัทยา แต่ยังมีชายทะเลและวัฒนธรรมด้วย

 รวมถึงการมุ่งเจาะตลาดอินเทนซีฟในตุรกี อิตาลี และสเปน และได้มีการทำงานร่วมกับสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ สสปน. ในการเจาะตลาดนี้ อย่างไรก็ดี แม้ยุโรปจะมีปัญหาเศรษฐกิจ แต่ตัวเลขนักท่องเที่ยวมาไทยก็ยังไม่ลด เพราะคนยังมีกำลังซื้อ และไทยก็เป็นประเทศที่มีความคุ้มค่าเงิน  โดยในปีที่ผ่านมานักท่องเที่ยวกลุ่มนี้เดินทางเข้ามาไทยราวกว่า 4 แสนคน และในปี 2555 คาดว่าจะเพิ่มขึ้นราว 10% หรือราว 5 แสนคน โดยมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อทริปราว 52,000 บาทต่อคน มีระยะเวลาพักเฉลี่ยราว 14 วัน

Posted by น.ส. คนาวรรณ ทรงสกุลเกียรติ 5220224140


Actions

Information

Leave a comment